GFC โชว์ฟอร์มเด่น สวนตลาด ปิดเทรดวันแรก 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 50% จากราคาไอพีโอ 7 บาท

GFC โชว์ฟอร์มเด่น สวนตลาด ปิดเทรดวันแรก 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 50% จากราคาไอพีโอ 7 บาท

บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ “GFC” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai หมวดธุรกิจบริการ วันนี้เป็นวันแรกราคาเปิดที่ 10.70 บาท ขณะที่ปิดตลาดราคาอยู่ที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท จากราคาไอพีโอที่ 7 บาท โดยระหว่างวันราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ระดับ 10.90 บาท

          บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ได้ทำการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai  ซึ่งราคาขาย IPO อยู่ที่ 7 บาท ราคาเปิดอยู่ที่ 10.70 เพิ่มขึ้น 3.70 บาท หรือเพิ่มขึ้น 52.86% และราคาปิดตลาดของการเทรดวันแรกอยู่ที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 50% โดยราคาสูงสุดของวันอยู่ที่ 10.90 บาท และมีมูลค่าซื้อขาย 2,047.35 บาท

        ทีมคณะผู้บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ“GFC” นำโดย รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท, นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ รองประธานกรรมการบริษัท และ นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่าเปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การต้อนรับ GFC อย่างอบอุ่นในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันนี้เป็นวันแรก ซึ่งบริษัทพร้อมเดินหน้านำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปพัฒนาขยายการลงทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพ และยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมทุกมิติมากยิ่งขึ้น ตามแผนการเปิดสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแลนด์มาร์ค ที่สำคัญของกรุงเทพฯ สำหรับการให้บริการโดยเฉพาะทางการแพทย์ของผู้มีบุตรยาก

รวมถึงขยายการลงทุนไปยัง คลินิกสาขาอุบลราชธานี เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนการลงทุนในสาขาย่อยอื่น ๆ ตามพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีศักยภาพและมีฐานลูกค้าผู้มีบุตรยาก เพื่อต่อยอดพื้นที่การให้บริการเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการเพิ่มศูนย์ฝึกอบรม นักเทคนิคการแพทย์ ให้สอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตัว สำหรับรองรับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับบริการรักษาภาวะมีบุตรยากทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติในอนาคต โดยคาดว่าทั้ง 2 สาขาจะสามารถเปิดให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ภายในไตรมาส 1/2567 นี้ และพร้อมขยายการลงทุนสู่ธุรกิจ New S-Curve ให้ GFC เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต