CHG สุดสตรอง! Q3 ฟันกำไร 326 ล้านบาท พุ่ง 26%

CHG สุดสตรอง! Q3 ฟันกำไร 326 ล้านบาท พุ่ง 26%

CHG ฟอร์มแกร่ง ไตรมาส 3 กำไรทะยาน 325.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ผู้ป่วยชาวไทย-ต่างชาติ ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น พร้อมทยอยรับรู้รายได้โรงพยาบาล-ศูนย์การแพทย์เปิดใหม่ มองผลงาน ไตรมาส 4 โตต่อเนื่อง ดันภาพรวมทั้งปี 2566 รายได้มาตามนัด 8,000 ล้านบาท

แพทย์หญิง ชุติมา ปิ่นเจริญ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 2,092.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 2,026.3 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 325.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบไตรมาส 3/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 258.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้น แบ่งเป็น รายได้ในกลุ่มผู้ป่วยทั่วไป เพิ่มขึ้น 8% โดยมาจากกลุ่มผู้ป่วยใน (IPD) ซึ่งมีทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาใช้บริการในสถานพยาบาลมากขึ้น ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น  148.8 ล้านบาท ส่วนรายได้โครงการประกันสังคม เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 3/2565 ตามจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น ตามการปรับอัตราการจ่ายสำหรับค่าเหมาหัว (มีผลเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2566) และรายได้อื่น เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท จากการรับจ้างบริหารงานให้กับโรงพยาบาลภาครัฐ

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 5,607.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 772.2 ล้านบาท

ไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้ที่เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง   จากการปรับการบริการกลับเข้าสู่ฐานเดิมก่อนสถานการณ์โควิด-19 การขยายขอบเขตให้บริการของโรงพยาบาล แห่งใหม่ การเข้าซื้อกิจการดูแลผู้สูงอายุจากช่วงปลายไตรมาสก่อนหน้าที่ผ่านมา รวมถึงการขยายการให้บริการและเพิ่มศักยภาพการรักษาของสถานพยาบาลเดิม ส่งผลให้ทั้งผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง” แพทย์หญิง ชุติมา กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 และไตรมาส 3/2562 ก่อนการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 พบว่าไตรมาส 3/2566 มีผลการดำเนินงานดีกว่า โดยโรงพยาบาลมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล เติบโต 46% แบ่งเป็นรายได้จากผู้ป่วยทั่วไป เติบโต 62% รายได้โครงการประกันสังคม เติบโต 32%

ส่วนงวด 9 เดือนปี 2566 และ ปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็เช่นกัน โรงพยาบาลมีรายได้ในงวด 9 เดือนปี 2566 จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล เติบโต 46% รายได้จากผู้ป่วยทั่วไปเติบโต 56%  และรายได้โครงการประกันสังคม เติบโต 45%

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2566 คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานมีทิศทางที่สดใส จากผลการดำเนินงานจากโครงการต่างๆ ทั้งการรับรู้รายได้จากการเบิกจ่ายประกันสังคมที่เข้ามาเพิ่มเติม การเปิดให้บริการโรงพยาบาลจุฬารัตน์แม่สอด อินเตอร์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง ที่เปิดให้บริการในเฟสแรก จำนวน 59 เตียง ซึ่งมีศักยภาพในการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบครบวงจรแห่งแรกในพื้นที่แม่สอด รองรับการให้บริการกับกลุ่มผู้ป่วยทั้งคนไทยในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง และชาวต่างชาติ ตลอดจนการได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดให้บริการศูนย์การแพทย์ Chularat Medical Center (ศูนย์มะเร็งครบวงจรแห่งแรกในจังหวัดสมุทรปราการ, ศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์, ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง, ศูนย์รักษาแผลเรื้อรัง, ศูนย์บำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง) ที่เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาภายหลังเปิดให้บริการ นับเป็นการสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต

“แนวโน้มผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายปี ที่สดใส ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2566 จะมีรายได้ตามเป้าหมาย 8,000 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน (ไม่รวมรายได้จาก Covid-19) อีกทั้ง มีแผนขยายธุรกิจรองรับให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน”  แพทย์หญิง ชุติมา กล่าว