“โกลเบล็ก” แนะลงทุนหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI มีผล 30 พ.ย.นี้
บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยหุ้นแกว่งตัวผันผวนจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องจนดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,400 จุด แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้นจากตัวเลขส่งออกเดือนต.ค. เติบโต 8% จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,380-1,420 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI มีผล 30 พ.ย.นี้ ได้แก่ BGRIM-EGCO-RATCH
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยหุ้นแกว่งตัวผันผวน โดยมีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องจนดัชนีหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,400 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงแรงยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,380-1,420 จุด
อย่างไรก็ตามภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าการส่งออกเดือนต.ค. เติบโต 8%YoY ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ดี ในช่วง 10M66 มูลค่าการส่งออกลดลง 2.7%YoY กระทรวงพาณิชย์เชื่อมั่นว่าการส่งออกของไทยในช่วง 2 ที่เหลือของปีนี้ (พ.ย.-ธ.ค. 66) จะยังสามารถขยายตัวเป็นบวกได้ ส่งผลให้ทั้งปี 2566 การส่งออกไทยจะติดลบเล็กน้อยที่ราว -1% และคาดว่าจะพลิกกลับมาขยายตัว 2% ในปี 2567
นอกจากนี้กระทรวงการคลังกำลังเร่งสรุปพิจารณามาตรการสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของรัฐบาลซึ่งเป็นงานเร่งด่วนที่จะมีส่วนช่วยเหลือทั้งลูกหนี้ในระบบและนอกระบบ ทั้งนี้ สภาพัฒน์รายงานว่าปลายงวดไตรมาส 2/2566 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่า 16.07 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.6%YoY โดยมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 90.6% ทรงตัวQoQ สินเชื่อเกือบทุกประเภทขยายตัวเพิ่มขึ้นมาจากหนี้เพื่ออสังหาริมทรัพย์และหนี้เพื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเป็นหลัก สำหรับ NPL มีมูลค่า 1.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.68%QoQ และคิดเป็นสัดส่วน 2.71% ต่อสินเชื่อรวม บ่งชี้ถึงความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนลดลงเล็กน้อย
ด้านปัจจัยที่ต้องจับตาซึ่งจะมีผลกับตลาดหุ้นไทย อาทิ วันนี้ 28 พ.ย. การประชุมครม. นายกรัฐมนตรีแถลงเรื่อง “แก้หนี้นอกระบบ” วันที่ 29 พ.ย. ประชุม กนง. ครั้งที่ 6/2566 และวันที่ 30 พ.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันนี้ 28 พ.ย. สหรัฐรายงานราคาบ้านเดือนก.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. และดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. วันที่ 29 พ.ย. สหรัฐ รายงาน GDP 3Q66 (ประมาณการครั้งที่ 2) และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ 30 พ.ย. กำหนดการประชุม OPEC+ หารือเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันในปีหน้า จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนพ.ย. วันที่ 1 ธ.ค. ญี่ปุ่นรายงานอัตราว่างงานเดือนต.ค.และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย. สหรัฐรายงานดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Standard ไม่มีหุ้นไทยที่ถูกคัดเลือกเข้าคำนวณในครั้งนี้ ทั้งนี้ BGRIM, EGCO, RATCH ได้ย้ายมาคำนวณดัชนี MSCI Small cap และควรระวังแรงขายหุ้นที่มีการคัดออกจากการคำนวณดัชนี MSCI Small cap ได้แก่ ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TTA, TFG และ VIBHA โดยมีผลในวันที่ 30 พ.ย. นี้
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินการปรับตัวลงของราคาทองคำในสัปดาห์นี้มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคลและดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต หากตัวเลขดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำสร้างรูปแบบ double top แล้วอ่อนตัวลงเป็นสัญญาณของขาขึ้นที่อ่อนแรง หากระหว่างสัปดาห์ราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้าน 2,010 $/oz แนะนำทำกำไรในทิศทางขาลง