SAWAD เตรียมควักเงิน 3.2 พันลบ. จ่ายคืนเงินหุ้นกู้ครบดีล หลังนำเงินลุยธุรกิจสำเร็จตามแผน ดันผลงานเติบโตแกร่ง

SAWAD เตรียมควักเงิน 3.2 พันลบ. จ่ายคืนเงินหุ้นกู้ครบดีล หลังนำเงินลุยธุรกิจสำเร็จตามแผน ดันผลงานเติบโตแกร่ง

SAWAD ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่มีเสถียรภาพ เตรียมนำเงินสดกว่า 3,246.90 ล้านบาท ชำระคืนหุ้นกู้พร้อมดอกเบี้ยที่ครบกำหนดไถ่ถอน 2 รุ่น สะท้อนสถานะการเงินแข็งแกร่ง ด้านผู้บริหาร ธิดา แก้วบุตตา ระบุ หุ้นกู้ SAWAD ทุกรุ่นได้ดำเนินการชำระดอกเบี้ยและไถ่ถอนครบตรงกำหนดทุกงวด สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ของศรีสวัสดิ์ ย้ำชัดเงินระดมทุนนำไปใช้ตามแผนงานเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในเครือศรีสวัสดิ์

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี (SAWAD241A) จำนวน 1,550 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 27 มกราคม 2567 และหุ้นกู้ชุดที่ 2/2563 อายุ 3 ปี 6 เดือน (SAWAD242A) จำนวน 1,696.90 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 โดยบริษัทได้เตรียมเงินสดเพื่อชำระคืนหุ้นกู้พร้อมอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ทั้งสองชุด รวมมูลค่า 3,246.90 ล้านบาทไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แม้ปัจจัยเสี่ยงของตลาดหุ้นกู้โดยรวมที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีอยู่มาก สำหรับ SAWAD พร้อมให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัททุกราย ที่ผ่านมาบริษัทได้จ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินหุ้นกู้ครบตามกำหนด โดยล่าสุดได้จ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 1 รุ่น คือ SAWAD241A เรียบร้อยแล้ว และเตรียมเงินสดเพื่อชำระหุ้นกู้ SAWAD242A ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ที่ผ่านมาการระดมเงินทุนในการเสนอขายหุ้นกู้ทุกครั้ง บริษัทได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตแก่บริษัท สะท้อนได้จากสถานะการเงินที่แข็งแกร่งที่ได้ชี้แจงต่อผู้ลงทุนในทุกไตรมาส จึงอยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ได้นำเงินมาใช้ในการขยายธุรกิจตามวัตถุประสงค์ รองรับการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อทั้งในไทยและต่างประเทศตามแผนงาน ” ธิดา กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ในปี 2567 เพื่อนำเงินขยายธุรกิจรองรับกับความต้องการสินเชื่อที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากการเก็บข้อมูลของบริษัท และได้ปัจจัยหนุนจากการปล่อยสินเชื่อในภาคธนาคารที่หดตัวลง ส่งผลให้ผู้บริโภคขอสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารมากขึ้น ซึ่งจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ได้รับการจองซื้อจากผู้ลงทุนครบเต็มวงเงินจัดสรรและเกินส่วนสำรองเสนอขายเพิ่มเติมร่วม 80% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นกู้ของบริษัทเป็นอย่างดี