HENG โชว์ผลงานปี 66 พอร์ตสินเชื่อรวมเติบโต 26% สูงกว่าเป้าหมาย สินเชื่อจำนำทะเบียนรถขยายตัวตามแผน หนุนรายได้รวม 2,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0665 บาทต่อหุ้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น

HENG โชว์ผลงานปี 66 พอร์ตสินเชื่อรวมเติบโต 26% สูงกว่าเป้าหมาย สินเชื่อจำนำทะเบียนรถขยายตัวตามแผน หนุนรายได้รวม 2,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.0665 บาทต่อหุ้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น

‘บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล’ หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ โชว์ความสำเร็จของผลการดำเนินงานปี 2566 ผลักดันพอร์ตสินเชื่อรวม 15,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% สูงกว่าเป้าหมาย ส่งผลมีรายได้รวม 2,878  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% และมีกำไรสุทธิ 422 ล้านบาท ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลรอบการดำเนินงานปี 66 ในอัตรา 0.0665 บาทต่อหุ้น พร้อมประมินความต้องการสินเชื่อปี 67 เติบโตได้ดีตามจังหวะเศรษฐกิจขยายตัว

 นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 (มกราคม-ธันวาคม) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายพอร์ตสินเชื่อโดยรวม 15,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 14,400 ล้านบาท ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำนเนินธุรกิจในการให้บริการสินเชื่อภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ ที่แข็งแกร่ง โดยพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีสัดส่วน 97% ของพอร์ตสินเชื่อรวม แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 65% ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อ 31% และสินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน 2% มาจากกลยุทธ์มุ่งขยายผลิตภัณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อที่ดี ประกอบกับรายได้จากค่านายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัยยังเติบโตได้อย่างโดดเด่นที่ 33% เป็นผลให้รายได้เมื่อเทียบกับรายจ่าย (Cost to income) ปรับตัวดีขึ้นเป็น 51% จากเดิม 53% และผลักดันให้ภาพรวมรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 2,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

แม้บริษัทฯ ได้เพิ่มระดับความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่จากภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตไม่เต็มศักยภาพและภาระหนี้ในภาคครัวเรือนสูง เป็นแรงกดดันต่อความสามารถในการชำระหนี้ เป็นผลให้คุณภาพพอร์ตลูกหนี้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงได้มีการดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ จึงตั้งสำรองลูกหนี้สินเชื่อส่วนเพิ่ม (Management Overlay) สูงขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเครดิต ประกอบกับผลกระทบการขาดทุนทางด้านเครดิตอันมาจากรถยึด หลังราคารถมือสองปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีกำไรสุทธิ 422 ล้านบาท ชะลอตัวลง 9% หากเทีบบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ HENG ได้ยึดมั่นการดำเนินงานเพื่อมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายรอบด้าน และเปิดเผยข้อมูลให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้รับทราบเพื่อสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานและสามารถตรวจสอบได้ ทำให้สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่ได้รับการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประเมินให้ HENG เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการกำกับดูแลกิจการ (CG Rating) ในระดับ 5 ดาว หรือระดับ ‘ดีเลิศ’ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน “SET ESG Ratings” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างการเติบโตบนพื้นฐานการกำกับกิจการที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานในปี 2566 ในอัตรา 0.0665  บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการ สูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหักทุนสำรองตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 4 มีนาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 เพื่อตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น

ส่วนภาพรวมสินเชื่อในปี 2567 ประมินว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปประกอบอาชีพ สอดคล้องกับทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น โดย HENG จะมุ่งเน้นบริหารพอร์ตสินเชื่อโดยรวมและบริหารคุณภาพลูกหนี้ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระและลดปัญหาหนี้สงสัยจะสูญ (NPLs) ควบคู่กับการบริหารจัดการด้านต้นทุนทางการเงิน เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยจากการปล่อยสินเชื่ออยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง