กระทรวงพาณิชย์ส่งหนังสือยืนยัน “เคพีเอ็น เอนเนอยี หรือ KPNET” ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น “วินด์ เอนเนอร์ยี่”

กระทรวงพาณิชย์ส่งหนังสือยืนยัน “เคพีเอ็น เอนเนอยี หรือ KPNET” ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น “วินด์ เอนเนอร์ยี่”

“วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง” รับทราบผลการพิจารณาจากกระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า “เคพีเอ็น เอนเนอยี” ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ชี้คำพากษาศาลอาญาที่ KPNET อ้างถึงครอบคลุมเฉพาะสัญญาซื้อขายหุ้น ส่วนตราสารการโอนหุ้นเป็นเอกสารคนละฉบับ ดำเนินการโดยชอบแล้วด้วยกฎหมาย

บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมอันดับ 1 ของไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับหนังสือจากกระทรวงพาณิชย์ ที่แจ้งให้ทราบว่า บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KPNET ไม่มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ในปัจจุบันของบริษัทฯ จึงไม่อาจใช้สิทธิเรียกประชุมหรือเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ที่ KPNET จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 ได้ ดังนั้นการเรียกประชุม การเข้าร่วมประชุม การลงคะแนน และมติการประชุมจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย (เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 89/2512)

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังระบุเหตุผลด้วยว่า ประเด็นที่ KPNET อ้างว่ามีสถานะเป็นผู้ถือหุ้น WEH โดยอาศัยคำพิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ 1708/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ.1753/2566 วินิจฉัยว่า เอกสารการซื้อขายหุ้นที่ KPNET ขายหุ้นให้แก่นายเกษม ณรงค์เดช เมื่อปี 2559 เป็นเอกสารปลอมและพิพากษาให้ริบเอกสาร และ KPNET ได้อ้างต่อไปว่า เมื่อสัญญาซื้อขายหุ้นเป็นเอกสารปลอม จึงเป็นผลให้ธุรกรรมการซื้อขายหุ้นดังกล่าวตกเป็นโมฆะ เมื่อธุรกรรมตกเป็นโมฆะสัญญาซื้อขายหุ้นรวมถึงนิติกรรมการโอนหุ้นไม่อาจเกิดขึ้นได้นั้น กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาว่า ข้อกล่าวอ้างนี้ไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจาก ศาลวินิจฉัยครอบคลุมเฉพาะสัญญาซื้อขายหุ้นเท่านั้น ส่วนการโอนหุ้นเป็นเอกสารคนละฉบับและเป็นการโอนหุ้นที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ดังนั้นการที่ KPNET อ้างคำพิพากษาของศาล จึงไม่อาจหักล้างสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ซึ่งกฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องได้

บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบของกฎหมาย รักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยชอบ ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่แอบอ้าง และผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จอย่างถึงที่สุด