APO เทรด mai วันแรก ลุยขยายธุรกิจตามแผน สร้างการเติบโตและความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น
APO เข้าเทรด mai วันแรก มั่นใจผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้
นายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ APO ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบ จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% และมีความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น
โดยการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้ามากขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค โรงกลั่นน้ำมันปาล์มดิบ กลุ่มจัดหาและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ (Trader) และฐานลูกค้าเดิมที่จะทำสัญญาซื้อขายระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต
จากแผนธุรกิจดังกล่าว บริษัทจึงระดมทุนปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต เปลี่ยนเครื่องจักรหม้อนึ่งจากแนวนอนเป็นแนวตั้ง เพื่อให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพดี และลดต้นทุนในระบบผลิต คาดว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จพร้อมดำเนินงานได้ภายในปี 2568 ซึ่งบริษัทวางกลยุทธ์การผลิตน้ำมันปาล์มดิบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ สภาพอากาศ และภาวะเศรษฐกิจอยู่เสมอ ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) เฉลี่ยอยู่ที่ 53.86% ปริมาณทะลายปาล์มสดที่เข้าสู่กระบวนการผลิต 232,655 ตัน โดยบริษัทมีกำลังการผลิตสูงสุด (Maximum Capacity) อยู่ที่ 432,000 ตัน นอกจากนี้การปรับปรุงดังกล่าวยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะที่เงินระดมทุนที่เหลือจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับขยายธุรกิจ
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสทางธุรกิจทั้งต้นน้ำ และปลายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ตั้งแต่ด้านการจัดหาวัตถุดิบ การพัฒนาเมล็ดพันธุ์ปาล์มที่ให้ผลผลิตคุณภาพสูง การเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการผลิตให้หลากหลาย เช่น การต่อยอดธุรกิจจากผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ การผลิตน้ำมันเมล็ดในปาล์ม ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
ด้านธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัทได้เพิ่มเครื่องจักรในช่วงไตรมาส 3/66 เพื่อให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าต่อหน่วยได้มากขึ้น ส่งผลให้ในปี 2567 จะเป็นปีแรกที่บริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าเป็นธุรกิจไม่มีต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้มาจากกระบวนการบำบัดน้ำเสียก่อให้เกิดก๊าซชีวภาพนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงโดยในปี 2566 มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 42.55%
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า APM มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ APO โดยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ภายหลังการระดมทุนจะทำให้ศักยภาพของ APO ที่มีฐานะการทางการเงินที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว เติบโตยั่งยืนมากขึ้น และจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจกว่า 40 ปี ประกอบกับผู้บริหารรุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ มีมุมมองการพัฒนาประสิทธิภาพแตกต่างจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมุ่งเน้นเพิ่มความสามารถการทำกำไร ทั้งการปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดการสูญเสีย การเพิ่มปริมาณการผลิตผลิตภัณฑ์ทุกชนิด และการมีต้นทุนที่ต่ำลง เพิ่มความสามารถการแข่งขันและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งเงินที่ได้จากการระดมทุนนำไปขยายกิจการเต็มจำนวน จึงเชื่อว่า APO จะเป็นหุ้นที่น่าสนใจ เหมาะที่จะลงทุนในระยะยาว อีกทั้ง บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด
ดร. วรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ KFS ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า เชื่อว่า APO จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในการซื้อขายวันแรกและช่วงต่อจากนี้ จากการกำหนดราคาเสนอขายที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน อีกทั้งผู้ถือหุ้นเดิมสมัครใจที่จะไม่ขายหุ้นที่ถืออยู่เพิ่มเติมจากเกณฑ์ Silent Period ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (Voluntary Share Lockup) เป็นระยะเวลา 6 เดือน
ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่มั่นคง ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความพร้อมด้านกระแสเงินสด และกำไรสะสมที่อยู่ในระดับดี อีกทั้งความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มความต้องการน้ำมันปาล์มดิบเติบโตต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า APO จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ทั้งในแง่ของการเติบโตและการปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เมื่อผนวกกับการพัฒนาประสิทธิภาพระบบการผลิตอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ APO สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งในอนาคต