“โลตัส” (Lotus’s) พร้อมแล้ว! กับการเสนอขายหุ้นกู้ 4 ชุด วันนี้

“โลตัส” (Lotus’s) พร้อมแล้ว! กับการเสนอขายหุ้นกู้ 4 ชุด วันนี้

กรุงเทพฯ 22 เมษายน 2567  : โลตัส (Lotus’s) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ดำเนินงานภายใต้ชื่อจดทะเบียน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด พร้อมแล้วกับการเสนอขายหุ้นกู้ 4 ชุด ให้กับประชาชนทั่วไป แข็งแกร่งด้วยอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” (Positive) ด้วยอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 2.90 – 3.56ต่อปี โดยจะเสนอขายพร้อมกันในวันนี้ (22 เมษายน 2567) เป็นวันแรก จนถึงวันที่ 24 เมษายน 2567 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่ง รวมถึงช่องทาง TrueMoney Wallet แอปพลิเคชัน มั่นใจกระแสตอบรับดี ทั้งจากความมั่นคงของกิจการในฐานะผู้นำค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโต และผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ

บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด  ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำขนาดใหญ่ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) พร้อมแล้วกับการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 5 เดือน 25 วัน อัตราดอกเบี้ย 2.90% ต่อปี ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 5 เดือน 25 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.14% ต่อปี ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 5 เดือน 25 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.38% ต่อปี และ ชุดที่ 4 อายุ 7 ปี 5 เดือน 25 วัน อัตราดอกเบี้ย 3.56% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยจะเสนอขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 6 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร รวมถึงการเสนอขายผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet ซึ่งเริ่มเสนอขายในวันนี้ (22 เมษายน 2567) เป็นวันแรก จนถึงวันที่ 24 เมษายน 2567

ทั้งนี้ หุ้นกู้ทั้ง ชุดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด  วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กร ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “บวก” สะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกแบบ omni-channel ที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและหลากหลาย ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยทริสเรทติ้งระบุว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีปัจจัยเสริมความแข็งแกร่งจากการมีพื้นที่เช่าในทำเลศักยภาพ และลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งในธุรกิจค้าปลีกและพื้นที่ให้เช่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีช่องทางจัดจำหน่ายหลายรูปแบบ โดย  วันที่ 31 ธันวาคม 2566  โลตัส” (Lotus’sมีร้านค้าปลีกจำนวน 2,454 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 226 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 178 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 2,050 แห่ง ซึ่งธุรกิจในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chainที่แข็งแกร่ง ตลอดจนระบบการกระจายสินค้าและเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ

โลตัส (Lotus’s) มุ่งยกระดับธุรกิจค้าปลีกสู่ SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัยในชุมชน โดยมีรูปแบบสาขา สินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของคนในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้า “รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส พร้อมกันนี้ ยังมีแผนการที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ เพื่อให้ร้านค้าของ “โลตัส” (Lotus’s) สามารถเข้าถึงและให้บริการผู้บริโภคได้มากขึ้น ควบคู่การเสริมแกร่งธุรกิจออนไลน์ ยกระดับ “โลตัส สมาร์ท แอป” ด้วยแอปพลิเคชันที่รู้ใจลูกค้ายิ่งขึ้น พร้อมเป็นร้านค้าปลีกชั้นนำในไทยที่พร้อมจัดส่งสินค้าจากทั้งสาขาเล็กและใหญ่ ตอกย้ำประสบการณ์การช้อปปิงที่ SMART ตอบรับทั้งพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมรับเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ต้องการทั้งความสะดวกและความรวดเร็วทันใจในการจับจ่าย

ทั้งนี้ สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ยังกล่าวถึงความเชื่อมั่นถึงการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของโลตัสในครั้งนี้ว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไปจะสามารถเข้าถึงหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “A+” แนวโน้ม “บวก” (Positive) สะท้อนศักยภาพการเติบโตของ “โลตัส” (Lotus’s) ในอุตสาหกรรมค้าปลีก ที่มีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต อีกทั้ง “โลตัส” ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน บนหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตลอดจนความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ สังคม และส่วนรวม ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ Lotus’s โปรดระมัดระวังการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพที่จะนำเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook และแอปพลิเคชัน Line เป็นต้น โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้

  • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป Bangkok Bank Mobile Banking ได้อีก 1 ช่องทาง)
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร 0-2111-1111 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป Krungthai Next ได้อีก 1 ช่องทาง)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572
  • ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-777-6784 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY ได้อีก 1 ช่องทาง)
  • บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป Dime! ได้อีก 1 ช่องทาง)