PRINC โดย “รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ” จับมือสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซีย ยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจในภูมิภาค

PRINC โดย “รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ” จับมือสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซีย ยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจในภูมิภาค

6 สิงหาคม 2567 – โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ และบมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ลงนามความร่วมมือกับ Institut Jantung Negara (IJN) หรือที่รู้จักกันในนามสถาบันหัวใจแห่งชาติมาเลเซีย (Malaysia National Heart Institute) ผู้นำในด้านการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดและทรวงอก ประเทศมาเลเซีย ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อร่วมกันยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจในภูมิภาค โดยนพ.สมคิด อุดมกิจมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ และ Dato’ Akmal Arief, Deputy Chief Executive Office, Institut Jantung Negara (IJN) โดยมี นพ.อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมปันสุข ชั้น 5 โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ

นพ.สมคิด อุดมกิจมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Institut Jantung Negara (IJN) ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิที่มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพหัวใจในภูมิภาค ความร่วมมือกับสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านโรคหัวใจและการผ่าตัดหัวใจและทรวงอกอย่าง IJN ช่วยสนับสนุนศักยภาพและความร่วมมือทางการแพทย์ เพื่อนำเสนอแนวทางรักษาที่ทันสมัยแก่ผู้รับบริการได้อย่างครบวงจร และยังช่วยในการยกระดับมาตรฐานการรักษาโรคหัวใจในประเทศไทยให้เทียบเท่าระดับสากล

ด้าน Dato’ Akmal Arief, Deputy Chief Executive Office, Institut Jantung Negara (IJN) กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ PRINC โดยโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ IJN ที่มุ่งมั่นเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศระดับโลกด้านการดูแลหลอดเลือดหัวใจและทรวงอกแบบบูรณาการ ด้วยเหตุนี้การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีระหว่างกันจะช่วยให้สามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการรักษาโรคหัวใจให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการมอบโอกาสให้ผู้ป่วยในประเทศไทยเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางการแพทย์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการรักษาโรคหัวใจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีการประชุมสัมมนาและเผยแพร่ผลงานร่วมกัน เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ รวมถึงพัฒนาศักยภาพของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นการสร้างพันธมิตรทางการแพทย์ระหว่างประเทศ อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาส สำหรับการพัฒนาและขยายขอบเขตการรักษาทางการแพทย์ในอนาคต.-