ADVICE โชว์ฟอร์มสวย Q2/67 กำไรโต 61% ด้านครึ่งปีแรกโกยรายได้เฉียด 7,000 ลบ. ชี้ตลาดไอทีและสมาร์ทโฟนครึ่งปีหลังคึกคัก – บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.15 บาท

ADVICE โชว์ฟอร์มสวย Q2/67 กำไรโต 61% ด้านครึ่งปีแรกโกยรายได้เฉียด 7,000 ลบ. ชี้ตลาดไอทีและสมาร์ทโฟนครึ่งปีหลังคึกคัก – บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 0.15 บาท

ADVICE ประกาศงบ Q2/67 มีกำไรสุทธิ 61.32 ลบ. พุ่งแรง 60.83% หนุนครึ่งปีแรก โชว์ฟอร์มสวย โกยกำไรสุทธิ 117.77 ลบ. โตกว่า 38.08% กวาดรายได้จากการขายและบริการ 6,972.85 ลบ. โต 3.30% ผลจากกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนขายดี แบรนด์ Apple และ Samsung เด่น ชี้ตลาดไอทีครึ่งปีหลังคึกคัก โดยเฉพาะไตรมาส 3 ผลงานพีค หลังปูพรมมาร์เกตติ้งปลายเดือน ก.ค. สินค้ารุ่นใหม่ๆ ทยอยออกสู่ตลาด และปัจจัยหนุนจากการเข้ามาของเทคโนโลยี AI ทำให้เกิดความต้องการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไอที มั่นใจรายได้โต 10% ตามแผน เผยปี 67 ขยายสาขาใหม่เพิ่ม 5-7 แห่ง - iStudio อีก 10 สาขา ทั้งนี้บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.15 บาท ตอบแทนผู้ถือหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 23 ส.ค.2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 ก.ย. 2567

นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิจำนวน 61.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.83% และมีรายได้จากการขายและบริการ 3,405.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.35% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจค้าปลีก มีรายได้เพิ่มขึ้น 96.24 ล้านบาท คิดเป็น 4.61% รายได้จากธุรกิจค้าส่ง เพิ่มขึ้น 6.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.58% และรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้น 7.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.39%

สนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทในงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 117.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.08% มีรายได้จากการขายและบริการ 6,972.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจค้าปลีกมีรายได้เพิ่มขึ้น 327.47 ล้านบาท คิดเป็น 7.68% แบ่งเป็นรายได้จากการขายปลีกผ่านสาขาเพิ่มขึ้น 209.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.72% รายได้จากการขายปลีกออนไลน์ เพิ่มขึ้น 116.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.80% และรายได้จากการขายปลีกลูกค้าองค์กร (Commercial) เพิ่มขึ้น 1.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.31% ธุรกิจค้าส่ง รายได้ลดลง 112.40 ล้านบาท คิดเป็น 4.63% ประกอบด้วยรายได้จากการขายส่งดีลเลอร์ลดลง 113.10 ล้านบาท ลดลง 7.24% และรายได้จากการขายส่งแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น 0.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.08% ขณะที่ธุรกิจบริการเพิ่มขึ้น 7.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.49%

“ภาพรวมของบริษัทยังคงเติบโตต่อเนื่อง รายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น มาจากช่องทางจากการขายปลีกผ่านสาขาเพิ่มขึ้น 209.87 ล้านบาท บริษัทได้มีการวางขายสินค้า Smartphone ณ 30 มิถุนายน 2567 มี Apple CE 71 สาขา Android CE 97 สาขา และการเพิ่มช่องทางรับชำระเงิน เช่น การรับชำระผ่าน True Money การผ่อนชำระโดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวร่วมกับการนำสินค้าเก่ามาแลกใหม่ และได้มีการจัดกิจกรรม Advice IT Expo ผ่านหน้าร้านสาขา จึงทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นนอกจากนี้  รายได้จากกลุ่มสินค้า Smartphone ที่เติบโตทั้ง Apple และ Android จากการที่บริษัทเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างเป็นทางการ และสินค้าจากแบรนด์ Samsung ได้เปิดตัว Smartphone รุ่นใหม่ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากการเข้ามาของเทคโนโลยี AI ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างสูง ตลอดจนอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่เสริมยอดขายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์การขายอุปกรณ์เสริมพร้อมกับสินค้าหลักซึ่งจะทำให้ GP สูงขึ้น” นายณัฏฐ์ กล่าว

“บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน เพราะจากตัวเลขยอดขายในงวดครึ่งปีแรกเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับจะมีปัจจัยหนุนจากการเข้ามาของเทคโนโลยี AI ทำให้เกิดความต้องการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไอทีต่างๆ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ PC และโน๊ตบุ๊คให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าในครึ่งปีหลังจะเห็นความคึกคักมากขึ้นตามสินค้ารุ่นใหม่ๆ ที่จะทยอยออกสู่ตลาด ในช่วงไตรมาส 3/67 จะเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากบริษัทมีกลยุทธ์ในการทำตลาดช่วงปลายเดือนก.ค. และคาดว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น” นายณัฏฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่กำไรในปี 2567 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากบริษัทได้นำเงินส่วนหนึ่งจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ไปชำระคืนหนี้ทั้งหมดที่มีต่อสถาบันการเงิน ทำให้บริษัทมีกระแสเงินในมือมากพอที่จะนำไปบริหารจัดการ โดยปัจจุบันบริษัทสามารถจัดซื้อสินค้าด้วยเงินสดและทำให้บริษัทได้ส่วนลดจากคู่ค้า ซึ่งส่งผลดีต่ออัตรากำไรให้ปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย

โดยแผนการขยายสาขาใหม่ปีนี้คาดว่าจะมีจำนวน 5-7 สาขา เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 340 สาขา โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนขยายสาขาประมาณ 20 ล้านบาท เพราะวางงบลงทุนไม่เกิน 4 ล้านบาทต่อสาขา ล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯ มีสาขาทั้งหมด 111 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯและปริมณฑล 16 สาขา และต่างจังหวัด 95 สาขา

ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นและตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด สำหรับผลการดำเนินงานงวด 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 23 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2567