KLINIQ มั่นใจครึ่งปีหลังผลประกอบการดีต่อ ทั้งปีรายได้โต 30% เหตุมาร์เก็ตแชร์ขยายตัว ใจป้ำปันผลระหว่างกาล 0.65 บ./หุ้น คิดเป็นอัตรา 95%ของกำไรสุทธิ

KLINIQ มั่นใจครึ่งปีหลังผลประกอบการดีต่อ ทั้งปีรายได้โต 30% เหตุมาร์เก็ตแชร์ขยายตัว ใจป้ำปันผลระหว่างกาล 0.65 บ./หุ้น คิดเป็นอัตรา 95%ของกำไรสุทธิ

KLINIQ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีกำไร 74 ล้านบาท รายได้ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ครึ่งปีแรกโกยกำไร 149.38 ล้านบาท สาเหตุจากการเพิ่มสาขาอีก 22 สาขา เป็น 68 สาขา ขยายอาณาจักรเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ “นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์” แม่ทัพใหญ่มองเป้าหมายทั้งปีรายได้โต 30% จากปีก่อน ได้ตามแผน มาร์เก็ตแชร์โตจากทุกแบรนด์ผนึกกำลัง ทั้ง THE KLINIQUE, L.A.B.X, THE KLINIQUE SURGERY CENTER, L’CLINIC และ KLINIQ MedSpa บอร์ดใจป้ำปันผลระหว่างกาล 0.65 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการปันผล 95% ของกำไรสุทธิ กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 29 ส.ค.จ่ายปันผล 13 ก.ย.นี้

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2567) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 701.61 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 539.68 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ จำนวน 74.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.9% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70.65 ล้านบาท จากการขยายสาขาใหม่ที่มีจำนวนถึง 22 สาขา ส่งผลให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างๆมากขึ้น รวมทั้งการลงทุนในยาและอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้น ทำให้มีบริการที่หลากหลาย โดดเด่น รวมทั้งการเติบโตของรายได้จากแผนกศัลยกรรมตกแต่งที่มีการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีสาขาที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้น 68 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE 44 สาขา, L.A.B.X 21 สาขา, THE KLINIQUE SURGERY CENTER 1 สาขา L’CLINIC 1 สาขา และ KLINIQ MedSpa 1 สาขา โดยการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ SSSG (Same Store Sales Growth : SSSG) และ Cash Sale เติบโตขึ้น 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจาก แบรนด์ THE KLINIQUE ที่ 66% L.A.B.X ที่ 17.2% THE KLINIQUE SURGERY CENTER ที่ 15.9% และ KLINIQ MedSpa ที่ 1% โดยกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการด้านผิวหนังและความงาม คิดเป็นสัดส่วนรายได้หลักที่ 76.7% ขณะที่ด้านศัลยกรรมและตกแต่งมีสัดส่วนรายได้ 16.6% ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับแผนการลงทุนขยายธุรกิจ “โรงพยาบาลเดอะคลีนิกค์” โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเพื่อสร้างรายได้จากหัตถการเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดให้ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.65 บาท จากกำไรสุทธิงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 95% ของกำไรสุทธิ โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 29 สิงหาคม 2567 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 13 กันยายน 2567