YLG ชี้ปีนี้ทองทำ New High ถึง 5 ครั้ง โมเมนตัมแกร่ง เป้าหมายถัดไป 2,650 ดอลลาร์ แนะนักลงทุนรอจังหวะปรับฐานหลังผ่านจุดสูงสุดใหม่เพื่อเข้าลงทุน

YLG ชี้ปีนี้ทองทำ New High ถึง 5 ครั้ง โมเมนตัมแกร่ง เป้าหมายถัดไป 2,650 ดอลลาร์ แนะนักลงทุนรอจังหวะปรับฐานหลังผ่านจุดสูงสุดใหม่เพื่อเข้าลงทุน

วายแอลจีชี้ทองคำร้อนแรงต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ราคาขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่แล้วถึง เดือน พร้อมประเมินหลังจากชนเป้าหมาย 2,500 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โมเมนตัมยังคงแข็งแกร่ง ลุ้นเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 2,650 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หากได้ปัจจัยหนุนสำคัญ ด้าน ทั้ง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.  ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งในตะวันออกกลาง และรัสเซีย-ยูเครน ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น  รวมถึงความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งสหรัฐ-จีน  ขณะที่ ทองคำในประเทศเคลื่อนไหวจำกัดจากแรงกดดันเงินบาทที่แข็งค่า หลังสภาพัฒน์ประกาศ GDP ไตรมาส 2/2567 ออกมาดีเกินคาด  พร้อมแนะนำบริการ Get Gold แอปฯเทรดทองคำเริ่มต้นเพียง 100 บาท เหตุตอบโจทย์และเข้าถึงง่าย เชื่อถือได้ ปลอดภัย ได้กำไรจริง

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าในปี 2567 ราคาทองคำได้ขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ในรายเดือนได้ถึง ครั้ง ซึ่งรวมถึงล่าสุดเดือน ส.ค. ก็ได้ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 2,510 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ (ณ วันจันทร์ที่ 19 ส.ค.)  ซึ่งระดับราคานี้ถือว่าได้ปรับขึ้นไปสูงกว่าเป้าหมายกรอบล่างที่ วายแอลจี เคยให้ไว้ที่ 2,500 - 2,650 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์  อย่างไรก็ตาม วายแอลจียังคงเป้าหมายทองคำไว้ที่กรอบดังกล่าว เนื่องจากพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของทองคำที่เมื่อขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หลังจากนั้นจะมีการปรับฐาน ในกรอบประมาณ 150-170 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์  ซึ่งหากนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำช่วงนี้ หากมีทองคำอยู่แล้วแนะนำให้รอจังหวะแบ่งขายทำกำไร เมื่อราคาปรับขึ้นไปสุดแล้วเริ่มเห็นแรงขายที่มีนัยสำคัญ  และรอเข้าซื้อใหม่เมื่อจบช่วงการพักฐานสะสมแรงซื้อ  แต่ถ้าทองคำยังไม่ย่อตัวก็สามารถถือต่อไปได้

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวอย่างร้อนแรงในช่วงนี้ มาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

  1. ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง หลังจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมเดือน ก.ย. อย่างแน่นอน  โดยตลาดให้น้ำหนัก 70% ว่าการประชุมครั้งถัดไปจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และน้ำหนักอีก 30% มองถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 0.50%  พร้อมติดตาม การประชุม Jackson Hole ในวันที่ 22-24 ส.ค.
  1. ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ขยายวงกว้างขึ้น จากความตึงเครียดที่ตะวันออกกลาง ที่อิสราเอลยังคงเดินหน้าโจมตีเป็นระยะๆ ท่ามกลางการเจรจาการหยุดยิงในฉนวนกาซา  นอกจากนี้ ยังมีสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ที่มีความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยืนยันว่าจะไม่สามารถเจรจากับยูเครนได้อีก หลังจากที่ยูเครนบุกโจมตีแคว้นคุสค์ ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนรัสเซีย
  1. นักลงทุนกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยนอกจากสหรัฐแล้ว มีความกังวลจากทางฝั่งจีนที่ได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ เดือน ก.ค. พบว่ายังคงมีสัญญาณชะลอตัวลง รวมไปถึง GDP จีนไตรมาส 2/2567 ที่ขยายตัวเพียง 4.7% ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/2567 ที่ขยายตัว 5.3%  ทำให้ตลาดเริ่มมองถึงความจำเป็นที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง  นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อนุมัติโควตาการนำเข้าทองคำใหม่ กับธนาคารหลายแห่งในจีน ในเดือนส.ค. หลังจากที่ได้ระงับไป 2 เดือน จึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีต่อตลาดทองคำ

สำหรับคำแนะนำการลงทุนช่วงนี้ หากจะทำการเข้าซื้อใหม่ มองว่าให้รอจังหวะทองคำย่อตัวลงมาสะสมแรงซื้ออีกครั้ง โดยมองแนวรับที่ 2,450-2,385 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์  ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 2,563-2,650 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ส่วนทองคำในประเทศช่วงนี้ปรับขึ้นไม่หวือหวา เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ทองในประเทศปรับตัวขึ้นอย่างจำกัด ล่าสุดสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 ออกมาขยายตัว 2.3% ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ จึงส่งผลให้เงินบาทยังคงมีทิศทางที่แข็งค่า ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ  อย่างไรก็ดีสำหรับ ทองคำ 96.5% ในประเทศ ให้กรอบแนวรับที่ 40,250 - 39,200 บาทต่อบาททองคำ และกรอบแนวต้านประเมินไว้ที่ 42,100 - 43,500 บาทต่อบาททองคำ  (คำนวณด้วยอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยย้อนหลัง สัปดาห์ ที่ระดับ 34.65 บาท)

ทั้งนี้ในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงนี้ แอปพลิเคชั่น Get Gold ที่วายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชั่น รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ที่ App Store และ Play Store หรือโทร. 0-2678-9888 #1