โอสถสภาจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในเมียนมาร์ มุ่งสร้างการเติบโตในธุรกิจหลักตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุน

โอสถสภาจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้วในเมียนมาร์ มุ่งสร้างการเติบโตในธุรกิจหลักตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุน

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์การลงทุน  จำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าที่ถือหุ้นโดยบริษัทย่อยของบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจให้บริการผลิตและจัดจำหน่ายขวดแก้ว (OEM) ในประเทศเมียนมาร์  ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัทฯ (Non-core Business) โดยได้พิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในอดีตและทิศทางการดำเนินงานในอนาคตของ MGE Group เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติให้จำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group  และให้บริษัทย่อยเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน ในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 โดยจะดำเนินการตามเงื่อนไขผูกพันภายใต้สัญญาดังกล่าว รวมทั้งการรับชำระเงินเพื่อให้ธุรกรรมมีผลเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในปี 2567  ซึ่งปัจจุบันเงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่าเงินลงทุนคงเหลือ 136 ล้านบาท และบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ100 มีภาระค้ำประกันเงินกู้ให้ MGE Group เป็นจำนวนประมาณ 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาและ 15,558 ล้านเมียนมาร์จัต

นางสาวรติพร ราษฎร์เจริญ Group Chief Financial Officer เปิดเผยว่า การจำหน่ายเงินลงทุนใน MGE Group ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าดังกล่าว เป็นไปตามกลยุทธ์การปรับโครงสร้างทางธุรกิจที่มุ่งสร้างความแข็งแรงและขยายการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก (Core  businesses) ควบคู่กับการพิจารณาผลการดำเนินงานและการจำหน่ายเงินลงทุนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-core businesses) รวมถึงธุรกิจที่บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นน้อยหรือไม่มีอำนาจควบคุม และการจำหน่ายเงินลงทุนนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศเมียนมาร์ของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินงานของธุรกิจหลัก (Core  businesses) ตลอดจนทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินงาน หรือสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทโอสถสภาแต่อย่างใด  ทั้งนี้โอสถสภาพร้อมเดินหน้าผลักดันการเติบโตตามแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว เพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้และอัตรากำไรจากธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวและสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโต 5 ปีของโอสถสภา และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นพลังเพื่อเสริมสร้างชีวิตให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย