PMC หุ้นธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า สยายปีกโต

PMC หุ้นธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า สยายปีกโต

PMC หุ้นน้องใหม่ป้ายแดง เข้าซื้อขายใน mai วันนี้เป็นวันแรก แย้มผลงานปี 67 กลับมาเติบโตโดดเด่น ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดระบาด พร้อมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพิ่มกำลังการผลิต สยายปีกโตก้าวสู่ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่าในภูมิภาคอาเซียน

โดย PMC เปิดเทรดวันแรกที่  2.26 บาท  เพิ่มขึ้น 0.44 บาท หรือ 24.17% จากราคา IPO 1.82 บาท ปิดเทรดวันแเรกที่ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 1.65% ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า 1,487 ล้านบาท

นายเอก สุวัฒนพิมพ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMC กล่าวว่า บริษัทฯ ได้นำหลักทรัพย์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพการเติบโตของ PMC ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า  มีจุดแข็งจากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารยาวนานกว่า 20 ปี มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าและพันธมิตรทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง  โดยบริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสติ๊กเกอร์เปล่า ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการผลิตฉลากสินค้าและฉลากบรรจุภัณฑ์ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดการใช้งานได้ในอีกหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น สติ๊กเกอร์บาร์โค้ด (Barcode) สติ๊กเกอร์ติดกระเป๋าเดินทาง (Luggage Tag) และฝาบิดบรรจุภัณฑ์ (Sealing Sticker) เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีจุดแข็งด้านการวิจัยและพัฒนา ความรู้ทางด้านเทคนิค และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมถึงข้อได้เปรียบของฐานการจัดจำหน่ายที่ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมต่อการกระจายสินค้าในภูมิภาคดังกล่าว ต่อยอดการเติบโตเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำของธุรกิจนี้ในภูมิภาคอาเซียนต่อไป  โดยในช่วง 3 ปีข้างหน้า (ปี2568-2570) บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะมีศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Centers) ครบ 5 แห่ง ครอบคลุมประเทศที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างความสามารถในการเข้าถึงลูกค้ารายใหญ่ในภูมิภาค

สำหรับผลประกอบการปี 2567 คาดว่าจะกลับมาเติบโตใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น สามารถเพิ่มกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์อีก 110 ล้านตารางเมตรต่อปี จากปัจจุบันกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์อยู่ที่ 75 ล้านตารางเมตรต่อปี โดยสายการผลิตใหม่อยู่ระหว่างการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/2568 เป็นต้นไป ภายหลังจากที่สายการผลิตใหม่ติดตั้งแล้วเสร็จ บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตสติ๊กเกอร์รวมทั้งสิ้น 185 ล้านตารางเมตรต่อปี ช่วยปลดล็อคศักยภาพการผลิต รองรับการขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉลากกาวในภูมิภาคอาเซียนต่อไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรในอนาคตเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เป็นอีกหุ้นที่อยู่ในช่วงเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน