บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ-อินฟราสตรัคเจอร์ 3 กองทุน รวมมูลค่าประมาณ 388 ล้านบาท

บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ-อินฟราสตรัคเจอร์ 3 กองทุน รวมมูลค่าประมาณ 388 ล้านบาท

นายยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์และอินฟราสตรัคเจอร์ ภายใต้การบริหารจัดการ จำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) สำหรับผลการดําเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ในอัตรา 0.54 บาทต่อหน่วย ซึ่งกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 19 กันยายน 2567 กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Flexible (ES-PROPINFRAFLEX) สําหรับรอบระยะเวลาบัญชี เดือน ตั้งแต่วันที่ มิถุนายน 2567 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ในอัตรา 0.35 บาทต่อหน่วย ซึ่งกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 23 กันยายน 2567 และกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus Flexible (ES-PIPF) สําหรับรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย ซึ่งกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 25 กันยายน 2567 รวมมูลค่าจ่ายปันผลทั้ง กองทุนอยู่ที่ประมาณ 388 ล้านบาท

สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่มีนโยบายการลงทุนโดยซื้อทรัพย์สินที่ลงทุนที่บริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัด เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และได้ใช้ในการดำเนินกิจการ โครงการโรงแรมซิกส์เซ้นส์ ยาวน้อย ตั้งอยู่บนเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา โดยปัจจุบันได้รับผลประโยชน์จากบริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ลัคชัวรี ฮอสพิทัลลิตี (ไทยแลนด์) จำกัด (เอสแอลเอช) ในฐานะผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวมลงทุน โดยมีข้อมูลการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง ปี คือ ปี 2564 อยู่ที่ 0.0850 บาทต่อหน่วย ปี 2565 อยู่ที่ 0.2400  บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.53 บาทต่อหน่วย และปี 2567 มีการจ่ายปันผลอยู่ที่ 0.75 บาทต่อหน่วย (รวมการจ่ายปันผลงวดนี้ 0.54 บาทต่อหน่วย) รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 1.605 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ ก.ย.2567)

ส่วนกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Flexible (ES-PROPINFRAFLEX)  เป็นกองทุนรวมผสม ที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์/ตราสาร ที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้มีข้อมูลการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือปี 2562 อยู่ที่ 0.45 บาทต่อหน่วย ปี 2563 อยู่ที่ 0.325 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.225 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.1772 บาทต่อหน่วย และปี 2567 มีการจ่ายปันผลอยู่ที่ 0.35 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น  1.5272 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 17 ก.ย.2567)

และกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus Flexible (ES-PIPF) มีข้อมูลการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือปี 2562 อยู่ที่ 0.74 บาทต่อหน่วย ปี 2563 อยู่ที่ 0.29 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.4013 บาทต่อหน่วย ปี 2565 อยู่ที่ 0.1000 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.1500 บาทต่อหน่วย และปี 2567 มีการจ่ายปันผลอยู่ที่ 0.20 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 1.8813 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 9 ก.ย.2567)

ทั้งนี้กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus Flexible (ES-PIPF) เป็นกองทุนรวมทรัพย์สินทางเลือก ประเภทกองทุนรวมหมวดอุตสาหกรรมที่เน้นลงทุนในหมวดอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector) มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือ หน่วย Infra ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงอยู่ระหว่างการดำเนินการกระจายการถือหน่วยลงทุน หรือเปิดเสนอขายครั้งแรก โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต อนึ่ง การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ นอกจากนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ มีรายได้หลักจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาถึงข้อมูลของอสังหาริมทรัพย์ ความสามารถของผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ และสภาพธุรกิจการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งศึกษาปัจจัยความเสี่ยงที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน อนึ่ง ความเสี่ยงที่สำคัญของกองทุน ได้แก่ ความเสี่ยงทางธุรกิจของกิจการโรงแรม และ ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง เป็นต้น ความเสี่ยงของกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Flexible และกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus Flexible ได้แก่ ความเสี่ยงจากการลงทุนในกองทุนรวมหมวดอุตสากรรมอสังหาริมทรัพย์ และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ซึ่งทั้ง 2 กองทุนนี้ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้