L&E โชว์ผลงาน Q3/67 กำไรทะยาน 312% รายได้อยู่ที่ 720 ลบ. ส่งซิก Q4 โตต่อเนื่อง ล่าสุดกอด Backlog แน่น 1,300 ลบ.

L&E โชว์ผลงาน Q3/67 กำไรทะยาน 312% รายได้อยู่ที่ 720 ลบ. ส่งซิก Q4 โตต่อเนื่อง ล่าสุดกอด Backlog แน่น 1,300 ลบ.

L&E คัมแบ็ก! ผลงานฟื้นแรง ไตรมาส 3/67 บุ๊คกำไร 14 ลบ. โตทะยาน 312% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 720 ลบ. โต 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 34.5% รับภาพรวมงานภาคเอกชนโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้ากลับมาขยายตัว และได้รับงานในส่วนงานโรงพยาบาล โรงงาน ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงน่าจับตามองต่อเนื่อง “อนันต์ กิตติวิทยากุล” ซีอีโอ ส่งซิก แนวโน้มไตรมาส 4 มีโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 ปัจจุบันมี Backlog ที่แข็งแกร่ง 1,300 ลบ.

นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 3/2567 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 720 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายและปรับปรุงศูนย์การค้า และห้างร้านต่างๆ  นอกจากนี้ เงินงบประมาณแผ่นดินได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นปกติแล้วหลังจากที่ล่าช้ามาเป็นเวลานาน มีส่วนช่วยให้รายได้จากการขายและให้บริการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นด้วย

บริษัทฯ มีกำไรสำหรับงวด 14.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 10.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 312% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำไรขั้นต้นจากการขาย รวมรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 27.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% แม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นเพียง 5% ทั้งนี้ เพราะอัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 30.4% ในปี 2566 เป็น 34.5% ในปี 2567 เป็นผลจากบริษัทได้พัฒนากระบวนการผลิตจนสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในไตรมาสนี้บริษัทได้ขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นด้วย

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและให้บริการ รวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 10.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5%  สาเหตุใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายที่แปรผันตามผลประกอบการได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และค่าเช่าคลังเก็บอุปกรณ์สินค้าสำหรับธุรกิจ Entertainment Lighting ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผลจากการปรับเงินเดือนประจำปีด้วย โดยภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้งานโครงการใหญ่ใหม่ๆ ได้แก่ โครงการ Punn Rama IV, งานสวนสัตว์แห่งใหม่ คลองหก ปทุมธานี, งานปรับปรุงไฟแสงสว่างภายในอาคาร สนามบินสุวรรณภูมิ, โรงพยาบาลราชวิถี อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉินใหม่, โรงพยาบาล คณะแพทย์ศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช อาคารผู้ป่วยใหม่ และงานดาต้าเซ็นเตอร์ PTT, TERRA, TRUE, GENESIS, AMAZON, AIS  เป็นต้น  ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลและดาต้า เซ็นเตอร์ เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง เนื่องจากมีความจำเป็นในการใช้ไฟเป็นจำนวนมาก

สำหรับแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของปี คาดว่ามีการขยายตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา และดีต่อเนื่องไปถึงจนถึงปี 2568 จากปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท รวมทั้ง โอกาสในการเดินหน้างานบัญชีนวัตกรรมจากภาครัฐ จากการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย และการพัฒนาตัวสินค้านวัตกรรมมากขึ้น รวมทั้ง LEM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ L&E เริ่มทยอยกลับมาผลิตสินค้าจำนวนมากเพื่อส่งออกไปตลาดสหรัฐอเมริกา ในขณะที่งานโครงการมิกซ์ยูสใหญ่ๆ 2-3 โครงการ ที่อยู่ใน Backlog แล้ว ยังชะลอตัวซึ่งคาดว่าจะไปรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยสนับสนุนการเติบในปี 2567 คาดการณ์รายได้ทั้งปีจะเติบโตราว 5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 ที่ประกาศออกมาเป็นที่น่าพอใจทั้งรายได้และกำไร ผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว และพร้อมจะทะยานโต ทุกหน่วยธุรกิจของ L&E ปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรกอย่างเห็นได้ชัด ทุกช่องทางไม่ว่าโครงการขายส่ง ขายปลีก ตลาดในและต่างประเทศ  บรรยากาศการเดินหน้าโครงการและการจับจ่ายใช้สอยเป็นไปอย่างคึกคัก งานภาครัฐงบประมาณใหม่มีผลบังคับใช้ และการกระตุ้นจากภาครัฐส่งเสริมการประหยัดพลังงาน เป็นอานิสงส์เชิงบวกต่อธุรกิจ ด้านธุรกิจ Entertainment Lighting ซึ่งขณะนี้กำลังมีผลงานทั้งรายการ The Voice และโขนมูลนิธิศิลปาชีพ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น ส่วนโรงงานในเครือ จากการที่มีการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง มีการเพิ่มกำลังการผลิตของเครื่องจักรหลักที่สำคัญ ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังผลิตของโรงงานมีการปรับตัวสูงขึ้น การผลิตสินค้า OEM & ODM ให้ลูกค้ารายใหญ่มีอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนในเครื่องจักรใหม่เพื่อผลิตสินค้าที่มียอดสั่งซื้อสูงเพื่อทดแทนการนำเข้า รวมทั้งเพิ่มสินค้านวัตกรรมสร้างความแตกต่าง และเพิ่มโอกาสการขายในไตรมาส 4 ปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 2568” นายอนันต์ กล่าว

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตธุรกิจที่เกี่ยวกับสินค้า IoT ในด้านแสงสว่าง รวมทั้งระบบควบคุมแสงสว่างอาคาร จากประสบการณ์โครงการที่ L&E สั่งสมมาในงานโครงการใหญ่ๆ เช่น One Bangkok, Park Silom, Bytedance HQ, Data Center KTB, อาคารจอดรถ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นต้น ทำให้เกิดการพัฒนาสินค้าโคมไฟอัจฉริยะรูปแบบใหม่ง่ายต่อการออกแบบและติดตั้ง รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการทดสอบฟังก์ชั่นก่อนใช้งาน นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนต่อยอดพัฒนาเป็น IoT Solution เพื่อตอบสนองกับเป้าหมายของภาครัฐในการพัฒนาความเป็น Smart City ในแต่ละเมืองใหญ่ๆ ต่อไป โดยบริษัทฯ ยังคงยึดความเป็น Lighting Solution Provider เติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน ดำเนินธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง เที่ยงตรง