บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) กางแผน Turnaround & Strong Foundation โชว์กำไร Q3/67 แรลลี่บวกกว่า 54.5 ลบ. ส่วนรายได้โต 116.2% เตรียมนำโครงการ “ซัมเมอร์พ้อยท์” เสนอขาย ICO – หนุนธุรกิจหลักอย่างยั่งยืน

บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) กางแผน Turnaround & Strong Foundation โชว์กำไร Q3/67 แรลลี่บวกกว่า 54.5 ลบ. ส่วนรายได้โต 116.2% เตรียมนำโครงการ “ซัมเมอร์พ้อยท์” เสนอขาย ICO – หนุนธุรกิจหลักอย่างยั่งยืน

บมจ. บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) แถลงแผน “Moving Forward to a New Era of “BC” : Turnaround & Strong Foundation” ตอกย้ำผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รูปแบบ BOS ประกาศผลการดำเนินงาน ปักธงเทิร์นอะราวด์ตามนัด Q3/67 กำไรอยู่ที่ 54.5 ล้านบาท แรลลี่บวกต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดกัน หนุน 9 เดือนปีนี้กำไรโตแตะ 66.2 ล้านบาท และ EBITDA Q3/67 เป็นบวกเฉียด 100 ล้านบาท มีรายได้รวม 198 ล้านบาท พุ่งแรง 116.2% (YoY) จากความสำเร็จขายเงินลงทุนในโครงการ Ibis Chiang Mai Nimman Journeyhub (Ibis) ขณะเดียวกัน เดินหน้าขยายโครงการใหม่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว โครงการกมลา 1 ย่านหาดกมลา ภูเก็ต และโครงการสุขุมวิท ซอย 5 สนับสนุนการรับรู้รายได้ต่อเนื่องในปี 68 นอกจากนี้ อยู่ระหว่างระดมทุน ICO นำ “ซัมเมอร์พ้อยท์” ลุยเป็นโครงการนำร่อง สร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักอย่างยั่งยืน ในชื่อ “Summer Point Token” 

นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) เปิดเผยว่า ภาพรวมปี 2567 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตั้งเป้าผลการดำเนินงานเทิร์นอะราวด์ตามนัด จากความสำเร็จในการปิดดีลขายเงินลงทุนโครงการแลนด์มาร์คของบริษัทจำนวน 2 โครงการในปีนี้ ได้แก่ โครงการศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์มอลล์ Cove Hill ที่สัดส่วนร้อยละ 50 ในไตรมาส 2/2567 และล่าสุดโครงการ Ibis Chiang Mai Nimman Journeyhub (Ibis) ที่สัดส่วนร้อยละ 37 ในไตรมาส 3/2567 ตอกย้ำโมเดลธุรกิจ “BOS” ประสบความสำเร็จ

โดย BC ได้ขายเงินลงทุนในกลุ่มบริษัท Boutique Offshore Holdings Limited. (BOH) เป็นสัดส่วนร้อยละ 37 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดซึ่งลงทุนทางอ้อมในโครงการ Ibis Chiang Mai Nimman Journeyhub (Ibis) โดยมีมูลค่าโครงการที่ 420 ล้านบาท รับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวน 90.6 ล้านบาท สะท้อนความแข็งแกร่งของทีมบริหาร ที่เดินหน้าขายเงินลงทุนในโครงการได้ตามแผนที่วางไว้

ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 BC มีรายได้รวมอยู่ที่ 198 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 116.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการดำเนินงานโรงแรมและศูนย์การค้าและสำนักงานให้เช่า อยู่ที่ 98.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและความสามารถของทีมบริหารอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ BC มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 54.5 ล้านบาท

สำหรับ EBITDA ในไตรมาส 3 ปี 2567 เป็นบวก 99.5 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2/2567 ที่ 71.6 ล้านบาท และดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ติดลบ 5.3 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับงวด 9 เดือน ในปี 2567 EBITDA มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นบวก 200.7 ล้านบาท จากติดลบ 27.5 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยการปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA มีสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นมาจากการขายเงินลงทุน ในบริษัทย่อยสัดส่วนร้อยละ 50 ซึ่งลงทุนทางอ้อมในโครงการ Cove Hill และจากการขายเงินลงทุน ในบริษัทย่อยสัดส่วนร้อยละ 37 ซึ่งลงทุนทางอ้อมในโครงการโรงแรม Ibis เชียงใหม่

จากความสำเร็จของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปีนี้ สนับสนุนให้งวด 9 เดือนของปี 2567 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 66.2 ล้านบาท โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการขายเงินลงทุนของบริษัท และการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการจากการดำเนินงานปกติ ในธุรกิจโรงแรมและสำนักงานให้เช่า

แม้มีสถานการณ์น้ำท่วมในเชียงใหม่เมื่อช่วงกลางปี แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโรงแรมของเครือบริษัทฯ ขณะเดียวกันโรงแรมของ BC ยังได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ปลอดน้ำท่วมอีกด้วย สะท้อนความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งของทีมบริหาร ตั้งแต่ต้นน้ำในส่วนของการสร้าง (Build) ที่เลือกทำเลที่มีศักยภาพ และสร้างโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการปรับใช้กลยุทธ์การบริหารงานในรูปแบบกลุ่มของโรงแรม ซึ่งทำให้เกิดการแบ่งปันทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เกิดการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต่อกลยุทธ์การขายเงินลงทุน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโมเดลธุรกิจของ BC

โดยปัจจุบัน BC มี โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ทั้งสิ้น 9 โครงการ มีการแบ่งผลการดำเนินงานเป็น 2 กลุ่มพื้นที่ คือ กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด นอกจากนี้ BC ยังดูแลโครงการของลูกค้าภายนอก ในภูเก็ต กะรน ภายใต้แบรนด์ของตนเอง โจโน่ เอ็กซ์ และได้รับค่าตอบแทนจากการบริหารรายได้และการบริหารโรงแรม ซึ่งแผนในอนาคต BC มีโครงการที่อยู่ในระหว่างพัฒนา จำนวน 4 โครงการ (Build) โครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ คือ ธุรกิจให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้า จำนวน 1 โครงการ (Operate) ที่เตรียมเป็นโปรเจกต์ไฮไลท์ใหม่ที่จะสร้างการเติบโตให้กับ BC ได้ในอนาคต อีกทั้งในไตรมาส 4 ปี 2567 นี้ BC ได้เปิดโครงการ Cove Hill ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ มีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนเจริญกรุง โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ร้อยละ 70 ในเดือนตุลาคม 2567

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการกมลา 1 ตั้งอยู่บนหาดกมลา จ.ภูเก็ต ทำเลยอดฮิต เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวระดับโลก อีกทั้ง อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการสุขุมวิท ซอย 5 ย่านทำเลทองในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ ทำเลทองย่านสุขุมวิท เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักเดินทางกลุ่มองค์กร โดยทั้ง 2 โครงการนี้ มีมูลค่ารวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะหนุนรายได้ในส่วนของการดำเนินงาน (Operate) ได้อย่างแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดีโครงการรีเทลของบริษัทฯ “ซัมเมอร์พ้อยท์” มิกซ์ยูสสุดฮอตใจกลางสุขุมวิท ซึ่งเป็นศูนย์การค้าและสำนักงานให้เช่าของบริษัทฯ มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 94.3% และศักยภาพของทีมบริหารอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ที่เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น บริษัทฯได้ยื่นแบบคำขอเสนอขาย Initial Coin Offering (ICO) ในรูปแบบของโทเค็นการลงทุนดิจิทัลต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” หรือ “Summer Point Token” โดยมี บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด เป็นผู้ออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัล เพื่อเป็นทางเลือกในการขายเงินลงทุนผ่านการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัล ซึ่งปัจจุบัน อยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัล จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 450 ล้านบาท