B โชว์งบไตรมาส 3 กำไรโต 13% มั่นใจโค้งสุดท้ายปี 67 ผลงานโดดเด่น

B โชว์งบไตรมาส 3 กำไรโต 13% มั่นใจโค้งสุดท้ายปี 67 ผลงานโดดเด่น

"บี จิสติกส์" เปิดงบไตรมาส 3/2567 กวาดรายได้แตะ 117 ล้านบาท ดันกำไรกว่า 42 ล้านบาท โต 13% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และพุ่งทะยานถึง 133% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มั่นใจโค้งสุดท้ายโตต่อ ทั้งจากธุรกิจหลักด้านโลจิสติกส์ และธุรกิจพลังงานทางเลือกผ่านเดอะ เมกะวัตต์

ดร. ปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B หนึ่งในผู้นำในการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุด  30 กันยายน 2567 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 42.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.02% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 38.00 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นถึง 133.52% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งกำไรที่เติบโตอย่างโดดเด่น เป็นผลมาจากรายได้รวมที่แตะระดับ 117.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.12% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะรายได้จากการขายไฟที่เพิ่มขึ้นกว่า 62.08% มาอยู่ที่ 53.44 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น 5.84% มาอยู่ที่ 12.64 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่นๆ ที่โตกว่า 44.28% มาอยู่ที่ 41.91 ล้านบาท ซึ่งมาจากกำไรจากการขายทรัพย์สินถาวร 17.95 ล้านบาท และกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัท เอนเนอร์จี อินโนเวชั่น พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด อีกจำนวน 14.02 ล้านบาท

ดร.ปัญญา กล่าวต่อว่า  การที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ โดยใช้พันธมิตรทางการค้าที่มีกองรถบรรทุกจำนวนมาก และมีการลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจพลังงานทางเลือก ซึ่งเป็นทิศทางหลักของการลงทุนในประเทศไทยและทั่วโลก

นอกจากนั้น บริษัทยังมีการศึกษา และเตรียมความพร้อมในการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานลม และระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่สำหรับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงจำหน่ายใบรับรองคาร์บอนเครดิต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี ดร.ปัญญา กล่าวว่า  บริษัท ยังมั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจหลัก โดยเฉพาะรายได้จาการให้บริการด้านโลจิสติกส์ รวมถึงรายได้จากการขายไฟ ที่บริษัทมีการลงทุนผ่านบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด ในการเป็นเรือธงในด้านการดำเนินธุรกิจพลังงานทางเลือก ซึ่งเป็นทิศทางหลักของการลงทุนในประเทศไทยและทั่วโลก